OPTOMETRIST CLINIC ≠ OPTICAL SHOP

การเลือกรับบริการจากสถานที่ให้บริการทางด้านสายตา : ศิลปะการเปรียบต่างเพื่อคุณภาพการมองเห็น

เมื่อพิจารณาเลือกสถานที่สำหรับตรวจวัดสายตาและทำแว่นตาขึ้นมาสักอันหนึ่ง ผู้บริโภคมีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งคลินิกทัศนมาตรเฉพาะทาง ร้านแว่นตาที่มีสาขาตามห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงคลินิกจักษุแพทย์บางแห่ง แม้ร้านแว่นตาบางแห่งจะโดดเด่นด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ดีไซน์ร้านที่หรูหรา และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการวัดสายตา แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านทัศนมาตรโดยตรง คือ ความละเอียดรอบคอบ ในการประเมินปัญหาสายตาและการให้คำแนะนำที่เหมาะสมอย่างแท้จริง

ประโยชน์จากการดูแลสายตาโดยทัศนมาตร OPTOMETRIST

การเข้ารับบริการ ณ คลินิกที่ดำเนินงานโดย ทัศนมาตร ผู้มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ จะให้ความสำคัญกับการประเมินสุขภาพตาและระบบการมองเห็นอย่างเป็นองค์รวม ซึ่งแตกต่างจากการวัดสายตาเพื่อการค้าขายเป็นหลัก โดยมีใจความสำคัญดังนี้

1. ความแม่นยำในการตรวจวัดสายตา การวิเคราะห์ ระบบการมองเห็น : ทัศนมาตรจะใช้ความรู้ (เรียนหลักสูตรปริญญา6ปี ) และประสบการณ์ในการประเมินค่าสายตาอย่างละเอียด เนื่องจากต้องใช้พื้นฐานความรู้ ที่อ้างอิงจากสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษารับรอง **ไม่ใช่การเอาเครื่องคอมพิวเตอร์วัดสายตา และเอาเลนส์ทดลองเสียบเข้าออกและถามคนซื้อ ว่าชัดไหมๆ หรือจะเอาชัดหรือเอาสบาย** อันนั้นแม้จะเรียกว่าวัดสายตาก็คงไม่ใช่ อาจจะเรียกว่า แค่จะขายแว่นก็ได้

กลับมาที่การทำงานในระดับคลินิกทัศนมาตร ทัศนมาตรจะพิจารณาถึง ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาชีพ และประวัติสุขภาพตา เพื่อให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำที่สุด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการมองเห็นเมื่อสวมใส่แว่นตา

2. การประเมินการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง Binocular Function : นอกจากการวัดค่าสายตาแต่ละข้างแล้ว ทัศนมาตรยังจะประเมินว่า ตาทั้งสองข้างทำงานร่วมกันได้ดีเพียงใด การมองเห็นเป็นภาพสามมิติ การกะระยะ และความสมดุลของการใช้กล้ามเนื้อตาทั้งสองข้าง มีความสำคัญต่อการมองเห็นที่สบายตา หากมีความผิดปกติในการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง ทัศนมาตรจะสามารถวินิจฉัยและ ให้คำแนะนำหรือการแก้ไขที่เหมาะสมได้ เช่น การจ่ายค่าสายตาให้ตรงกับปัญหาสายตา เพื่อนำไปสู่การจ่ายเลนส์ชนิดพิเศษที่เรียกว่าปริซึม  ในกรณีที่คนไข้มองเห็นภาพซ้อน

3. การประเมินสุขภาพตาเบื้องต้น : ก่อนการสั่งประกอบแว่นตา ทัศนมาตรจะทำการตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น เพื่อค้นหาความผิดปกติหรือโรคตาที่อาจส่งผลต่อการมองเห็น หากตรวจพบความผิดปกติใด ๆ จะมีการแนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมก่อน เพราะถ้าทำแว่นออกมาทั้งที่ยังมีพยาธิสภาพของโรคตา เรื่องนี้ถือว่าผิดจรรยาบรรณวิชาชีพทัศนมาตร

4. คำแนะนำเฉพาะบุคคลสำหรับเลนส์และกรอบแว่นตา : จากผลการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม ทัศนมาตรสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับชนิดของเลนส์ที่เหมาะสม ( เช่น เลนส์เฉพาะทางสำหรับคอมพิวเตอร์ เลนส์โปรเกรสซีฟ ) และกรอบแว่นที่เข้ากับสรีระใบหน้าและลักษณะการใช้งาน เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบาย มองเห็นได้ชัดเจน และตรงตามความต้องการมากที่สุด

5. การดูแลและติดตามผล  :  โดยทั่วไป  คลินิกทัศนมาตรมักให้ความสำคัญกับการติดตามผลหลังจากที่ผู้บริโภคได้รับแว่นตาไปแล้ว  เพื่อให้มั่นใจว่าแว่นตานั้นใช้งานได้ดีและไม่มีปัญหา  หากมีข้อสงสัยหรือความไม่สบายตา  สามารถกลับไปขอคำปรึกษาหรือปรับแก้ไขให้เหมาะสมได้

6. ความคุ้มค่าในระยะยาว : มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่บ้างที่ผู้บริโภคเข้าใจว่า การลงทุนในการตรวจสายตาระบบการมองเห็น และทำแว่นตากับทัศนมาตรอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าร้านที่มีช่างแว่นตาเป็นคนทำแว่น แต่ Price ของเลนส์สายตานั้น เป็น Price ที่บริษัทกลางที่จัดจำหน่ายเลนส์สายตา และกรอบแว่นตา เป็นผู้กำหนดขึ้นมา ดังนั้นประเด็นนี้ ก็น่าจะช่วยเคลียร์ให้กับผู้บริโภคที่มีความเคลือบแคลงได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นแล้ว นอกจากผู้บริโภคจะได้รับแว่นตาที่เหมาะสมที่สุดกับปัญหาสายตาและการใช้งาน ซึ่งช่วยถนอมสายตาและ ได้รับการมองเห็นที่มีคุณภาพดีที่สุดในระยะยาว ด้วย Price ที่แทบไม่แตกต่างกับร้านแว่นตาเลย จึงถือเป็นการลงทุนที่ผมประเมินว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งยวด

ดังนั้นการตัดสินใจเลือกใช้บริการจากสถานที่ให้บริการด้านสายตาและการมองเห็น  ควรพิจารณาจากความต้องการส่วนบุคคลและประโยชน์ที่ได้รับ  เพื่อให้มั่นใจว่าแว่นตาที่เลือกนั้น  ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตา  แต่ยังส่งเสริมสุขภาพดวงตาที่ดีในระยะยาวอีกด้วย