ประวัติคนไข้

คุณ N.P. เพศ หญิง อายุ 37 ปี ให้ประวัติไว้ว่า เมื่อ สมัยเป็นเด็ก จนถึง วัยรุ่นมีปัญหาค่าสายตาสั้นมาก ประมาณ -18.00 D. ใช้แว่นสายตาที่มีน้ำหนักมาก จึงเข้ารับการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL ( Implantable Collamer Lens) ไว้บริเวณหน้าเลนส์แก้วตา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นไม่ต้องใช้แว่นสายตา หรืออุปกรณ์ช่วยในการมองใดๆ จนปัจจุบัน รู้สึกการมองเห็นในระยะไกล เช่น ในการขับรถ โฟกัสภาพได้ยาก มีอาการมาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ ส่วนการมองมือถือ หรือใช้สายตามองระยะใกล้ เห็นได้ปกติ ก่อนเข้ามารับคำปรึกษาประมาณ 2 สัปดาห์ ได้รับการรักษาอาการตาแดง และหายเป็นปกติ ไม่มีประวัติได้รับอุบัติเหตุบริเวณศีรษะ และไม่มีโรคประจำตัว

Preliminary Test

Pupillary Distance : OD. 31 / OS. 30.5

VA@6m. without glasses : OD. 20/30-2 / OS. 20/20 with difficult

VA@40cm. without glasses : OD. 20/20 with difficult / OS. 20/20

Cover test : Normal

Refraction

Retinoscope

OD. -1.00 -1.50 x 15 VA 20/25

OS. -0.50 -1.00 x 150 VA 20/20

Monocular subjective

OD. -0.75 – 2.00 x 30 VA 20/15

OS. -0.25 -0.75 x 145 VA 20/15

BVA

OD. -0.50 -2.00 x 30 VA 20/15

OS. -0.25 -0.75 x 145 VA 20/15

Functional ; Vergence and Accomodation by Vongrafe technique

Test @ 6 M. 

Associate phoria : 0 

Horizontal phoria : 2 prism Base out 

Vergence BI reserve : x / 8 / 3 

Vertical phoria : 0 

Test @ 40 cm. 

Horizontal phoria : normal 

Vertical phoria : normal 

BCC  0 

NRA +1.75 D. / PRA -1.75 D.  ( rely on BCC )

AC/A  ratio  1 : 1

ประเมินผล 

1. Compound myopic Astigmatism 
2. Binocular function : normal 
3. Ocular Health : normal 

Treatment

Prescription Tunning BVA ( freespace )

OD. -0.25 -2.00 x 30

OS. -0.25 -0.75 x 150

Lens Design : Single Vision Rodenstock Perfalit index 1.50 Solitare Protect Plus 2 X-tra Clean

พิจารณาเคส

1. ปัญหาสายตาที่ตรวจพบ ภายหลังการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม ICL เมื่อผ่านไป 10 ปี
ตาข้างขวา สั่งจ่ายเป็นเลนส์สายตา -0.25 -2.00 x 30 เป็นค่าสายตาสั้น ปริมาณน้อย ( Mild Myopia < -2.00 D. ) ร่วม กับค่าสายตาเอียง ปริมาณปานกลาง ( Moderate Astigmatism -1.00 D. ถึง -2.00 D. ) ในแนวแกน 30 องศา ระดับการมองเห็น improve จากการมองเห็นด้วยตาเปล่า 20/30-2 เป็น 20/15 ภายหลังการ Corrected แล้ว

ตาข้างซ้าย สั่งจ่ายเป็นเลนส์สายตา -0.25 -0.75 x 150 เป็นค่าสายตาสั้นปริมาณน้อย ร่วม กับค่าสายตาเอียง ปริมาณน้อย ( Mild Astigmatism < -1.00 D. ) ในแนวแกน 150 องศา การมองด้วยตาเปล่า นั้น ระดับการมองเห็นอ่านตัวอักษร 20/20 ได้ แต่อ่านได้ยาก หลังจาก Corrected แล้ว improve เป็น 20/15

2. ค่าจากการตรวจ functional พบ 2 prism Base out ในระยะไกล เมื่อพิจารณา BI reserve และร่วม กับการ Confirm test อื่นๆ แล้ว พิจารณาว่าไม่ต้อง จัดการอะไร ในประเด็นนี้ คิดว่า Corrected เลนส์สายตา ค่าที่ถูกต้องแล้ว น่าจะไป set ระบบการทำงานร่วมกันสองตา ให้เป็นปกติ ส่วนเลนส์แก้วตาจริงๆ ยังคง Function ได้ดี เมื่อพิจารณาร่วมกับค่า NRA / PRA / BCC

สรุปและติดตามผล

เคสนี้ แน่นอน ว่า Spatial Distortion จากกำลังขยายของเลนส์สายตาเอียง ข้างขวา ที่มีปริมาณ -2.00 D. เมื่อใช้ในเลนส์ โครงสร้าง พื้นฐาน อย่าง Perfalit คาดการณ์ได้ว่า คนไข้ต้องใช้เวลาในการปรับสายตา ที่จะต้องเผชิญกับภาพบิดเบี้ยว ร่วมกับการกะระยะไม่ค่อยได้ในช่วง 2 สัปดาห์

ในเคสนี้ จึงพิจารณา ร่วมกับการ เลือกขนาดกรอบแว่นตาเล็ก เพื่อให้ Diameter เลนส์สายตาเล็กที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ / ปรับให้แป้นจมูกชิดตามากขึ้น เพื่อลด Vertex Distance / ตั้ง Optical center เลนส์สายตา ให้ตรงรูม่านตา ทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นปัจจัยลด effect ของ Spatial distortion เท่าที่มีองค์ประกอบจะจัดการได้อย่างจำกัด

ติดตามอาการ หลังจากคนไข้รับแว่น ไปแล้ว 2 สัปดาห์ คนไข้รู้สึกพอใจกับน้ำหนักแว่นตาที่ไม่หนักมาก เหมือนในอดีต การมองระยะใกล้ มองมือถือ เห็นได้สบายตามาก ส่วนการมองไกล ภาพคมชัดและโฟกัสได้ดี เวลาขับรถนั้น อาการภาพไหวๆ บิดเบี้ยว นั้น ยังมีอยู่บ้าง แต่เริ่มน้อยลง กว่าวันแรกที่รับแว่นไปใช้งาน และคาดว่าภาพจะเป็นธรรมชาติ ในอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์

ในเคสนี้ เป็นหนึ่งตัวอย่าง การใช้แว่นตา ในแง่ enhance Vision ภายหลัง การผ่าตัดแก้ปัญหาสายตา เพื่อ Support ให้การมองเห็นดียิ่งขึ้น และ enjoy กับการดำรงชีพ ต่อไป

ขอบคุณสำหรับการติดตาม
Chatchawee,O.D.,BS.(RT)