R. -4.50 D. VA 20/20

L. -4.50 D. VA 20/20 -1

 

R. 20/25

L.20/25

 

R. -4.50 -0.50 x 75 VA. 20/20

L. -4.75 -0.25 x 85 VA. 20/20

 

Hor.phoria : Normal

Vert.Phoria 1 Base up OS ( R Hyper )

BD-reserve 2/0 (LE)

BU-reserve 2/1 (LE)

 

Hor.phoria : 12 Base in

Vert.Phoria 1 Base up OS ( R Hyper )

BD-reserve 2/0 (LE)

BU-reserve 2/1 ( LE )

 

Maddox Vert.Phoria on freespace : 0

 

NRA +0.75 D. PRA -0.75 D. BCC +2.00 D. (Rely on BCC)

 

R. -4.00 -0.50 x 75 VA. 20/15

L. -4.25 -025 x 97 VA. 20/15

Addition +1.50 D. VA 20/20

1. R. Compound myopic astigmatism L. Compound myopic astigmatism

2. Presbyopia

3. Ocular health : Normal

 

1. ค่าสายตา ข้างขวา และซ้าย เปรียบเทียบจากแว่นอันเดิม 7 ปีที่แล้ว เปลี่ยนแปลงจากสายตาสั้น เป็นสายตาสั้นและมีสายตาเอียงร่วมด้วยทั้งสองข้าง ( เมื่อตรวจบน Phoroptor ) สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ ภายหลัง recheck ผลตรวจค่าสายตา จากการตรวจบน freespace ( over refraction โดย retinoscope และ trial JCC handheld) ค่าสายตาที่แท้จริง น้อยกว่า ค่าสายตาที่ตรวจบน phoroptor 2 step ผลตรวจที่ได้คือ R. -4.00 -0.50 x75 L. -4.25 -0.25 x 97 VA.20/15 ระดับการมองเห็นดีขึ้น กว่าการตรวจบน phoroptor 1 แถว ( ผลตรวจบน phoroptor คือ R. -4.50 -0.50 x 75 L. -4.75 -0.25 x 85 VA.20/20 )

 

สิ่งที่เป็นไปได้ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในขณะตรวจสายตา คือ ในคนไข้ที่มีสายตาสั้นมาก อาจเกิด Instrumental Accomodation ขึ้นได้ ค่า BVA ที่ตรวจบน phoroptor จึงเป็นค่าสายสั้นที่มากเกินจริง ดังนั้นจึงต้อง tunning หาค่า BCC หรือ addition ใหม่ เพราะการหาค่านี้ สัมพันธ์กับค่า BVA ( ค่าสายตามองระยะไกล ) ได้ค่า addition ใหม่ +1.50 D. ( จากเดิม ได้ค่า +2.00 D. ) หมายความว่า คนไข้รายนี้ มีค่าสายตาชรา ในระยะการมองใกล้ โดยดูความสัมพันธ์ร่วมกับค่า NRA และ PRA ที่ลดลง บ่งบอกว่ากำลังการเพ่งของเลนส์ตาในการโฟกัสมองระยะใกล้ไม่ดีเหมือนแต่ก่อนแล้ว

 

2. ตาเหล่ออกซ่อนเร้นในระยะใกล้ ที่มากขึ้น ในเคสที่เป็น Presbyopia หรือ สายตาชรา ( ในเคสนี้ตรวจเจอ 12 prism base in ) พบได้เป็นปกติ จึงไม่ได้แก้ไขเรื่องนี้

 

ตาเหล่ซ่อนเร้นในแนวดิ่ง ที่ตรวจพบ บน phoroptor 1 prism right hyperphoria แต่เมื่อ คอนเฟิร์มผลตรวจด้วย Maddox บน freespace ได้ค่าเป็น 0 น่าจะเกิดจาก ตำแหน่งกายภาพตาของคนไข้ ข้างขวา สูง กว่าข้างซ้าย เมื่อมองผ่านเซ็นเตอร์เลนส์ บน phoroptor ที่ระดับเดียวกัน จึง induce ให้เกิดผลตรวจที่เป็นเท็จได้ จึงไม่ได้จัดการอะไรในเรื่องนี้เช่นกัน

 

3. ส่วนสุขภาพตา มีภาวะตาแห้ง ซึ่งคนไข้ได้ใช้การหยอดน้ำตาเทียม ตามคำแนะนำของจักษุแพทย์

 

ค่าสายตาปัจจุบัน ที่เป็น best corrected ( มองไกล ) คือ R. -4.00 -0.50 x 75 L. -4.25 -0.25 x 97 ร่วมกับ สายตาชรา ( มองใกล้ ) +1.50 D. เพื่อให้ตอบโจทย์ การมองระยะใกล้ที่ไม่ชัดของคนไข้ จึงพิจารณาจ่ายเลนส์โปรเกรสซีฟ ( เลนส์ที่มีค่าสายตามองไกล และมองใกล้ ให้อยู่บนเลนส์ชิ้นเดียวกัน ชนิดไม่มีรอยต่อ ) รุ่นกรอบแว่นตาและ ชนิดเลนส์ที่ใช้แก้ปัญหา ดังนี้

Multifocal with addition lens : Progressiv B.I.G. NORM™ Allround M corridor Colormatic® 3 1.60 Smokey Grey

Spectacles frames : Rodenstock model R7074-C-5317-140

 

คนไข้แรกรับแว่น สามารถใช้งานสายตาได้ปกติ มองไกลแล้วชัดกว่าแว่นเดิมมาก ส่วนการมองคอมพิวเตอร์ และมือถือ อาจจะมีฝึกการเหลือบตามองในระยะที่แตกต่างกัน ซึ่งมองใกล้นั้นชัดและสบายตากว่าแต่ก่อนมาก สรุปแล้ว ปรับตัวกับการใช้งานโปรเกรสซีฟได้ตั้งแต่แรกรับแว่น