การแก้ปัญหาเจ็บปวดดวงตา ด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ

 
Preview Case

คุณ P.W. เพศชาย อายุ 41 ปี เข้ามาปรึกษาด้วยอาการปวดเบ้าตา จากการใช้งานแว่นสายตาที่ทำมาประมาณ 1 ปี มีอาการปวดตามากขณะที่ทำงานมองจอคอมพิวเตอร์ หลายๆจอ อาการเป็นมากขึ้นในช่วง 7 เดือนหลังมานี้ ใช้สายตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าปวดมากๆจะเป็นไมเกรน มีอาการตาแห้ง จนทำให้คันบริเวณหางตา อาการจะบรรเทาลงเมื่อถอดแว่นและพักการใช้งานสายตา การมองเห็นระยะไกลด้วยแว่นตาที่กล่าวมายังชัด ใช้คอนแทคเลนส์เวลาออกกำลังกายเท่านั้น ค่าสายตาคอนแทคเลนส์ที่ใช้ คือ -4.00 D. สองตาใช้ค่าเดียวกันนี้ มีประวัติการใช้แว่นสายตามาประมาณ 10 ปี ปัจจุบันมีทานยากลุ่ม Antidepressant ภายใต้การดูแลจาก Psychiatrist

แว่นเดิม เลนส์คลายการเพ่งระยะใกล้ ตัดแสงสีฟ้า เปลี่ยนสีเวลาออกแดด
R. -4.25 D.
L. – 4.25 -0.25 x 105
ADD +0.25
 
VA with correction @ 6 M.
R. 20/10 L. 20/20 ตาข้างซ้ายอ่านได้ยากกว่าตาขวา สองตาอ่านได้ 20/20 แต่อ่านได้ยากเช่นกัน

VA with correction @ 40 CM.
R.20/20 L. 20/20 สองตาอ่านได้ 20/20 แต่ทั้งหมดอ่านได้ยากมาก ต้องขยับหนังสือออกห่างจากตา จึงจะ อ่านได้ง่ายขึ้น
 
Cover Test
@6 M. : ปกติ @40 CM. : Exophoria
 
**PERRLA @FAR&NEAR : ปกติ
 
BVA จากเครื่อง Phoroptor
R. – 4.25 VA : 20/10
L. -3.50 -0.75 x 100 VA : 20/10
 
NRA +1.50 D.  PRA -1.50 D.  BCC +1.00 D.
 
Binocular Function
Ass.phoria : 0.5 BO
 
Horz.Phoria@FAR : 1.0 BO
BI-Vergence Reserve : x /11 /4
Vert.Phoria@FAR : Normal
 
Horz.Phoria@NEAR : 7 BI ( Rely on BCC )
BO – Vergence Reserve 18/23/12
Vert.Phoria@NEAR : Normal
 
AC/A ratio 1:1
 
Maddox Rod Handheld@FAR. : 1 BO
 
Spectacle RX
R. -4.25 D.
L. -3.50 -0.75 x 95
ADDITION + 100 D.

 

ประเมินผล
1. R. Myopia / L. COMPOUND MYOPIC ASTIGMATISM
2. Presbyopia
3. **การหดของรูม่านตา เมื่อมองวัตถุใกล้ : ปกติ สุขภาพตาอื่นๆ ปกติ
 
พิจารณาเคส
ค่าสายตาข้างขวา เป็นค่าสายตาสั้นอย่างเดียว ปริมาณ -4.25 D. ระดับการมองเห็น 20/10 เท่ากับค่าสายตาแว่นเดิม ข้างซ้ายตรวจเจอค่าสายตา สั้นและเอียง ทั้งบน Phoroptor แต่แกนองศา Shift เล็กน้อยตอนตรวจ Free Space สรุปได้ค่า -3.50 -0.75 x95 ระดับการมองเห็น 20/10 ซึ่งระดับการมองเห็น ได้ถึง 20/10 นั้น ดีกว่าเกณฑ์ปกติ 20/20  
 
การที่มนุษย์นั้นจะมองเห็นได้อย่างปกติ และมีความรู้สึกว่าการใช้ดวงตานั้น ไม่ต้องใช้ความพยายามออกแรงอะไรมากมายนัก สำคัญมากที่ ระดับการมองเห็นจากดวงตาทั้งสองข้าง ควรจะมีระดับที่เท่ากัน หรือกล่าวง่ายๆว่า “ ไม่ว่าเราจะใช้ตาขวา หรือ ตาซ้าย มองวัตถุสิ่งหนึ่ง โดยของสิ่งนั้นจะอยู่ที่ระยะใดก็ตาม ภาพที่มองจากตาซ้าย หรือ ตาขวา องค์ประกอบเรื่องความคมชัดของภาพ รวมไปถึงขนาดภาพนั้น ควรจะต้องมีความเท่าเทียมกัน หรือ คล้ายกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ” ในเคสนี้ตรวจหาค่าสายตาออกมาได้ ในระดับที่เท่ากันที่ 20/10 ซึ่งตาข้างซ้าย ต้องใช้ความชำนาญจากการส่อง Retinoscope / Subjective Refraction / รวมไปถึงการ Balance Accommodation เพื่อให้คนไข้ มีระดับการ Accommodation ตา 2 ข้าง เท่ากัน ซึ่งเรื่องราวที่เล่ามานี้ ไม่ได้น่าจะเกิดขึ้นในแว่นตาอันเดิมที่ใช้งานอยู่ เพราะเนื่องจาก อาการที่คนไข้ complaint เรื่องที่ต้องทนทุกข์ทรมาน กับการใช้งานสายตา จนถึงวันที่เข้ามาปรึกษาเพื่อหาทางพ้นจากทุกข์
 
2. คาดการณ์ว่า ผลจากการใช้เลนส์ที่มีค่าสายตามากกว่าสายตาจริงๆ ในตาข้างซ้าย มาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ส่งผลต่อการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองข้าง ที่มองระยะไกล เกิดเหล่เข้าซ่อนเร้นเล็กน้อย ส่วนระยะใกล้มีตาเหล่ออกซ่อนเร้น อยู่ในเกณฑ์ปกติของคนในวัย 41 ปี ที่มักจะเกิดจากสายตาชราตามวัย เคสนี้ตรวจเจอ BCC +1.00 D. ซึ่งสัมพันธ์กับค่า NRA และ PRA ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ บ่งบอกว่าเลนส์ตากำลังการเพ่งมองใกล้ ไม่ดีเหมือนสมัยก่อนแล้ว จึงเป็นเหตุให้ คุณ P.W. มีอาการปวดตาเมื่อจ้องมองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน สรุปแล้ว เคสนี้ ผู้ตรวจวิเคราะห์ว่า ควรจ่ายเลนส์สายตาที่ตรงกับค่าสายตา ณ ปัจจุบัน ( ศัพท์เฉพาะเรียกว่า Full Correction ) ทั้งค่าสายตามองไกล และมองใกล้ ให้อยู่บนเลนส์ชิ้นเดียวกัน ( PROGRESSIVE LENS ) จะช่วยให้ระบบการทำงานร่วมกันของตาทั้งสอง reset ตัวเอง และกลับมา Function ได้ตามปกติ
 
3. เรื่องยา Antidepressant ที่คนไข้รับประทานอยู่ อาจมีผลต่อการมองเห็นในระยะใกล้ของคนไข้ได้ ดังนั้นการตรวจเรื่องความสามารถ หด และ ขยายของรูม่านตา จากการส่องไฟฉายเข้าไปยังรูม่านตา ที่เรียก ว่า PERRLA ที่ผลตรวจออกมาเป็นปกติ ช่วยคอนเฟิร์มในเรื่องนี้ว่า ยานั้นไม่ได้มีผลต่อการ Accommodation ของคนไข้ ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่สนับสนุน ผลตรวจค่าสายตา และระบบการทำงานร่วมกันของตาทั้งสอง ว่าที่ตรวจออกมาได้ค่าปริมาณต่างๆนั้น ไม่ได้มี effect มาจากยาที่คนไข้รับประทาน
 
การแก้ปัญหา
Multifocal with addition lens : Progressiv B.I.G NORM™ Allround M 1.60 Solitare Protect Plus2 เลนส์โปรเกรสซีฟจากค่าย Rodenstock
 
 
สรุปและติดตามผล
ภายหลังการรับแว่นตาอันใหม่ และฝึกใช้งานแว่นสายตาโปรเกรสซีฟเลนส์ คุณ P.W. ใช้งานสายตาทั้งมองไกล มองจอคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงมือถือ ได้เป็นปกติ และไม่มีอาการปวดตาใดๆหลงเหลืออยู่ ภายหลังฝึกการใช้งาน เพียง 4 วัน อนุมานได้ว่า การได้สวมใส่แว่นสายตา ที่ตรงกับ REFRACTIVE ERROR จากการหักเหแสงภายในดวงตาปริมาณทั้งหมด นั่นหมายถึงว่า ระบบการมองเห็นของคนไข้ จะเป็นปกติ และไม่ต้องพยายามออกแรงกล้ามเนื้อตาใดๆ
 
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด มีองค์ประกอบอยู่ในหลายประเด็น สิ่งสำคัญที่สุด คือ เรื่องการตรวจวิเคราะห์ ผู้ตรวจต้องกระทำให้ถูกต้องทุกประเด็น เพื่อตอบโจทย์อาการที่คนไข้ เล่าเรื่องราวประเด็นปัญหาการมองเห็น จนหาหนทางให้เขาพ้นจากทุกข์ให้ได้ มิใช่พึ่งพา สรณะภายนอกเรื่อง เช่นเคสนี้คนขายแว่นอันที่ใส่อยู่ โทษแสงสีฟ้าคือตัวปัญหา ต้องใช้เลนส์ตัดแสงสีฟ้าป้องกันซะ ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าหน้าจออุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ แสบตามาก ก็เพิ่มออพชั่นเปลี่ยนสีเข้าไปอีก ( ทั้งที่กิจกรรม OUTDOOR ของคุณ P.W. นั้นน้อยมาก )
 
คนไข้เล่าว่าส่วนมากจะทำงานใน OFFICE แทบทั้งวัน หนักข้อ กว่านั้น พอคนไข้บอกว่า ปวดตาเมื่อมองใกล้ พี่ร้านนั้นเขาก็ เชียร์ว่า ใช้เลนส์คลายการเพ่งจะดีขึ้นเอง ( ตรวจบนเลนส์พบ ADD+0.25 ) ฟังๆ แล้วเหมือน Topping บนขนมหวานซักอย่าง แต่นี้คือเรื่องราวของดวงตามนุษย์ ไปเปรียบกับของรับประทาน พิจารณาแล้วไร้สาระหาแก่นสารไม่ได้ ดังนั้น สรณะภายนอกที่ยกตัวอย่างมานั้น ไม่ช่วยอะไรคนไข้ได้เลย ( นอกจากเงินคนไข้ที่ต้องเสียไปเพื่อเพิ่มออพชั่นทั้งป้องกันแสงสีฟ้า และเปลี่ยนสีออโต้ ตามคำเชียร์ของคนขายแว่นเพียงเท่านั้น โดยไม่ได้ช่วยให้การมองเห็นของคนไข้ดีขึ้น ซ้ำยังเพิ่มปัญหาให้ดวงตาหนักเข้าไปอีก )

 

ความเห็นส่วนตัว ขออนุญาตใช้ภาษาพูดนิดนึงครับ “คิดว่าประเทศไทย ควรจะหยุด และพอกับเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับการเสียทรัพย์ไปกับแว่นตาที่ใช้งานจริงไม่ได้ แก้ไขกี่ครั้งกี่หนยังสวมใส่ไม่ได้ ปวดหัว ปวดตา เวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน ปรับตัวแล้วปรับอีก จนเบื่อที่จะไปร้านเดิม คนไข้ก็ Shopping around ร้านแว่นตาอื่นๆ เสียเงินเสียทอง ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะค้นหาผู้ให้บริการที่เข้าใจและแก้ไขปัญหาการมองเห็นได้จริงๆ”
 
ฝากไว้ให้คิสสส  คิดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เจริญทำใจ
คอนเท้นนี้ควรพอเท่านี้

 

ขอบคุณสำหรับการติดตาม
Chatchawee,O.D.,BS.(RT)
 
ติดต่อตรวจสายตาและระบบการมองเห็น #KHUNYAIOPTOMETRY ติดต่อนัดหมาย โทรศัพท์ ; 062-125-2601 / Line ID ; 062-125-2601 / Inbox เพจนี้ /
Google Map ;
 
ที่ตั้ง ; คุณยาย OPTOMETRY ภายในหมู่บ้าน Wize Signature เลขที่ 345/51 หมู่ 3 ถ.วงแหวนรอบนอก ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่