การจัดการปัญหาสายตาสั้น และเอียง ปริมาณมาก + สายตาชรา ร่วมกับปัญหากล้ามเนื้อตา Basic Exophoria + ตาเขซ่อนเร้นในแนวดิ่ง ด้วยโปรเกรสซีฟปริซึมเลนส์ เพียงคู่เดียว

คุณ C.Y เพศชายวัย 45 ปี เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มาด้วยอาการแว่นเดิมคือโปรเกรสซีฟเลนส์ ที่ใช้เมื่อ 7 ปี ที่แล้ว มองไกลไม่ชัด และมีอาการมองเห็นภาพดิ้นๆ ไหวๆ มีอาการมา 1 ปี ส่วนการใช้สายตามองคอมพิวเตอร์ มือถือ เอกสาร ยังพอมองได้อยู่ แต่ก็ต้องเริ่มเพ่งบ้างแล้ว
ไม่มีประวัติอุบัติเหตุ หรือ ผ่าตัดบริเวณ ดวงตา ไม่มีประวัติโรคทางตาใดๆ ไม่มีอาการปวดศีรษะ แต่มีภาพซ้อนบ้างเวลาพักผ่อนน้อย
ระยะห่างระหว่างรูม่านตา

R 34 L 34

ระดับสายตาจากแว่นเดิม
R -5.75 – 0.75 x5 ระดับสายตา 20/30 +2 ระยะ 6 เมตร ระดับสายตา 20/25
L. -5.50 -1.50 x 10 ระดับสายตา 20/20-1 ระยะ 6 เมตร ระดับสายตา 20/40

ADD +0.75

 

ความโค้งกระจกตา
R. 40.19@179/ 41.17@86

L. 39.51@13/ 40.91@103

ตรวจสายตาด้วยเรติโนสโคป
R. -6.75 – 1.00 x 180

L. -5.75 -1.75 x 180

ตรวจสายตาจากเครื่องหัวกะโหลกวัดสายตา
R. -7.00 – 0.75 x 171 ระดับสายตา 20/20
L. -5.50 – 2.00 x 10 ระดับสายตา 20/20
ระบบการเพ่งและการเหลือบของตา
ค่าสายตาตามวัย BCC + 1.50
NRA/PRA rely on BCC ค่าแรงยืดหยุ่นของเลนส์ตา +1.00/-1.00

Vergence การเหลือบของลูกตา
Associate Hoz. Phoria : 6 prism base In @ 6 เมตร
Associate Vert. Phoria ; 2 Prism Base Down Right Hyperphoria @ 6 m.
Hoz. Phoria : 6 Prism Base In @ 6 m.
Vergence BO : 20/24/10
Vert.Phoria : 3 Prism Base Down right Hyperphoria @6 m.
Hor.Phoria : 5 Prism Base In @ 40 cm.
Vergence BO : 16/36/8
Vert.Phoria : 3 Prism Base Down Right Hyperphoria

MaddoxRod handheld @ 6 m.
Horz.Phoria 10 Prism BI
Vert.Phoria 3 Prism BD Right Hyperphoria

ค่าสายตาเลนส์เสมือนจริงใช้เลนส์โปรเกรสซีฟทดลองและเลนส์ปริซึม
R. -7.00 – 0.75 x 180 with 1.5 Prism Base IN + 0.5 Prism Base Down ระดับการมองเห็น 20/20
L. -5.50 -2.00 x 10 with 1.5 Prism Base IN + 0.5 Prism Base UP ระดับ การมองเห็น 20/20
OcularHealth
R. ความดันตา 12.4 mmHg.
L. ความดันตา 16.4 mmHg.

การประเมินผล
1. R. Compound myopic Astigmatism / L. Compound myopic Astigmatism
แปลว่า มีค่าสายตาสั้น และเอียง

2. ระบบการเพ่งและการเหลือบของตา
2.1 Basic Exophoria ความผิดปกติ ของกล้ามเนื้อตา เหล่ออกซ่อนเร้น ปริมาณใกล้เคียงกัน ทั้งระยะการมองไกล และมองใกล้
2.2 Right Hyperphoria ตาเหล่ซ่อนเร้นในแนวดิ่ง
2.3 Presbyopia สายตาชราตามวัย มองใกล้ไม่ชัด

3. สุขภาพตาปกติ

แนวทางแก้ไข
1. แว่นสายตาโปรเกรสซีฟ ไร้รอยต่อ ค่าสายตา ไกล กลาง ใกล้ เต็มกำลังที่ตรวจเจอทั้งหมด และ จ่าย ปริซึม 3 Base IN + 1 ปริซึม Base Down Right hyperphoria
R. -7.00 -0.75 x 180 with 1.5 BI +0.5 BD
L. -5.50 -2.00 x 10 with 1.5 BI +0.5 BU

2. Lens Design : MultigressivMyview2 index 1.60 x(Short) Corridor Solitare Protect Plus 2

3. ให้ปรับสายตา 2 สัปดาห์

ชนิดเลนส์โปรเกรสซีฟ Multigressive Myview2 ที่ระบุค่าสายตา และปริมาณปริซึม ผ่าน โปรแกรม Winfit

การพิจารณาเคส
1. ค่าสายตามองไกล ข้างขวา สั้นขึ้น -1.25 D. กำลังสายตาเอียงเท่าเดิม องศาสายตาเอียงเปลี่ยนเป็น 180 องศา(WTR) ระดับการมองเห็น 20/20
ข้างซ้าย ค่าสายตาเอียงเพิ่มขึ่น -0.50 D. องศาเดิม สายตาสั้นคงที่ ระดับการมองเห็น 20/20
สายตาชรา เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ เป็น +1.50 D. ค่ากำลังยืดหยุ่นเลนส์ตา NRA/PRA สมดุล กันดี ระดับการมองเห็น 20/15 ทั้งสองข้าง

2. Basic Exophoria ตาเหล่ออกซ่อนเร้น มีค่าปริมาณปริซึมที่มองไกล และใกล้ ค่าใกล้เคียงกัน มองไกลตรวจเจอทั้งหมด 6 BASE IN (Norm 0-2 BI) และ 5 BASE IN มองใกล้ ( Norm 0-6 BI) โดยที่กำลัง Positive Fusional Vergence หรือ กำลังกล้ามเนื้อตาที่พยายามเหลือบตาเข้ามา มากกว่า ปริมาณ ที่ร่างกายขาดอยู่ ( Reserve > 2 เท่า Demand)
เหตุใดจึงจ่าย 3 BI ทั้งที่ กล้ามเนื้อมีแรงพอที่จะดึงลูกตาเข้ามามองให้ตาสมดุลได้ เพราะ

๑. Horz.Phoria ดูไกล เกินค่าปกติ จ่าย 3 BI Demand เหลือ 3 BI แรงเหลือบตาเข้ายิ่งไม่ต้องออกแรงเยอะ

๒. คนไข้ แจ้งว่า มองเห็นภาพดิ้นได้ เมื่อมองไกล มีภาพซ้อนเป็นบางครั้งเมื่อ พักผ่อนน้อย

๓. ช่วยลด demand มองใกล้ไปในตัว จาก 5 BI เหลือ 2 BI แรงเหลือบตาเข้ายิ่งไม่ต้องออกแรงเยอะเช่นกันกับมองไกล

แต่เมื่อ Full Correct สายตาแล้ว Horizontal Phoria ก็ Correct แล้ว คุณ C.Y ยังเห็นภาพไม่ชัด ขอบตัว หนังสือ Snellen Chart ยังมีความเบลอ จึงพิจารณา Correct 1 Prism Base Down Right Hyperphoria ถ้าถามว่าเหตุใดไม่ correct ทั้ง 3 BD OD เพราะ การตรวจบนหัวกะโหลกวัดสายตานั้น คนไข้อาจจะมีการเอียงศีรษะ ซึ่ง induce Prism ในแนวดิ่งให้มากขึ้นได้ เมื่อจูนบน เลนส์ทดลอง ได้ 1 Prism BD OD ภาพที่คนไข้มองไม่มีภาพซ้อน และชัดคมดี

 

Basic Exophoria แตกต่างจาก Divergence Excess และ Convergence Insufficiency อย่างไร

DivergenceExcess (DE) : ปริมาณค่าปริซึมตาเหล่ออกซ่อนเร้น ณ จุด มองไกล มากกว่า ที่ มองใกล้ มากกว่า 10 Prism Base In

Convergence Insufficiency : ปริมาณค่าปริซึมตาเหล่ออกซ่อนเร้น ที่ใกล้ มากกว่าที่ไกล ซึ่งอาการส่วนมากจะมองใกล้ไม่สบายตา เห็นภาพซ้อน อาจมีน้ำตาไหลขณะมองใกล้ จึง วินิจฉัย ได้ว่า คุณ C.Y เป็นปัญหากล้ามเนื้อตา Basic Exophoria + Right Hyperphoria

ค่าปริมาณปริซึมที่มองไกล 6 BI ผมสันนิษฐานว่า เกิดจากการใส่แว่นสายตาอันเดิม ที่ น้อยกว่าค่า จริง นานเกินไป จึง เหนี่ยวนำให้เกิด เหล่ออกซ่อนเร้น ค่าที่มากเกินค่าปกติ

3. Len design ที่เหมาะสมกับค่าสายตา และปัญหาขนาดนี้ คงหนีไม่พ้น MultigressivMyview2 index 1.60 x(Short) Corridor Solitare Protect Plus 2 ที่ตอบโจทย์กิจกรรมการใช้สายตา ของคุณ C.Y ได้เป็นอย่างดี
สรุป
– วันส่งมอบแว่น คนไข้มีอาการตึงๆตาเล็กน้อย สวมไปซักประมาณ 15 นาที ภาพซ้อนหายไป และไม่มีภาพดิ้นแล้ว
– ติดตามอาการวันที่ 5 เริ่มมองไกลได้คมชัดปกติ แต่การใช้งานระยะกลางใกล้ ยังต้องจูนหาตำแหน่ง และยังตึงๆตาเล็กน้อย แต่ไม่มีภาพดิ้น และซ้อน
– ติดตามอาการวันที่ 10 คุณ C.Y ใช้งานแว่นอันใหม่ได้ตามปกติ ไม่มีอาการตึงตา ภาพซ้อน หรือ ดิ้นๆไหวๆ หลงเหลืออยู่แล้ว

ปริมาณสายตาสั้นมากแนะนำเลือกกรอบที่เล็ก เพราะจะช่วยตัดส่วนขอบของเลนส์ออกได้ ร่วมกับการใช้เนื้อวัสดุ 1.60

ส่งท้าย
เคสนี้จัดเป็นเคสที่มีความยาก และซับซ้อน มาก ตั้งแต่การตรวจค่าสายตา ตรวจระบบการเพ่ง และการเหลือบของลูกตา เพราะมีปัจจัย มากมายทำให้ค่าที่ตรวจผิดพลาดได้ รวมไปถึง ต้องเลือกคุณภาพเลนส์ และเทคโนโลยี ที่เหมาะสม เพื่อแก้ ปัญหาสายตา และ การทำงานร่วมกันสองตา คนไข้จึงจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ครับ

สวัสดีครับ
Chatchawee,O.D. ,BS.(RT)