การแก้ปัญหาสายตาเอียง และปัญหากล้ามเนื้อตา Convergence Insufficiency ร่วมกับสายตาชรา Presbyopia ด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ

คุณ H.A เพศหญิงวัย 45 ปี ทำงานเป็นพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มาด้วยอาการแว่นเดิม ที่ใช้เป็นโปรเกรสซีฟ ใช้มาแล้ว 2 ปี ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมารู้สึกต้องขยับแว่นตลอด เวลามองไกล และมองใกล้เห็นภาพซ้อนๆเป็นบางเวลา แต่ระบุช่วงเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ ใช้สายตามองคอมพิวเตอร์ตลอด เพราะต้องทำงานในโรงพยาบาล แผนกผู้ป่วยนอก ไม่มีประวัติเกี่ยวกับ อุบัติเหตุ หรือ ผาตัดดวงตาใดๆทั้งสิ้น ก่อนมาตรวจพักผ่อนเพียงพอ

ระยะห่างระหว่างรูม่านตา
R 29.1 L 31.1

VAแว่นเดิม
R plano -0.50x 155 การมองเห็น 20/20-2 ที่ระยะ 6 m.
L.plano -0.50 x 25 การมองเห็น 20/20-2 ที่ระยะ 6 m.
ADD +1.50 ระดับการมองเห็น 20/25 ที่ระยะ 40 เซนติเมตรในตาทั้งสองข้าง

ความโค้งกระจกตา
R.45.45@145/46.48@55
L.44.82@14/45.51@104

ตรวจค่าสายตาด้วยเรติโนสโคป
R. plano – 0.25 x 160
L. plano -0.75 x 50
ค่าสายตาที่ตรวจจากหัวกะโหลกวัดสายตา
R. plano-0.25×150 ระดับสายตา 20/20
L. plano -0.50×45 ระดับสายตา 20/20
 
 
ระบบการเพ่งและการทำงานร่วมกันสองตา
ค่าสายตาตามวัย Bcc +1.75 D
NRA/PRA rely on BCC ค่าแรงยืดหยุ่นของเลนส์ตา +1.00/-100

vergence การเหลือบของลูกตา
Associate phoria 1 Prism Base In @6m.
Hoz. Phoria 2.5 Prism Base In @ 6 m.
Vergence BO 4/12/3
Hor. Phoria 7 Base In @ 40 Cm.
Vergence BO 10/12/5
Ac/A : 1:1

ค่าสายตาตรวจบนเลนส์เสมือนจริงใช้เลนส์โปรเกรสซีฟทดลอง
R. Plano-0.25×150 with 0.5 Prism Base In VA 20/20
L. Plano -0.50 x 45 with 0.5 Prism Base In VA 20/20
Add +1.75 VA20/20 ทั้งสองข้างที่ระยะ 40 cm.
 
การประเมินผล
1. R. simple myopic Astigmatism / L. simple myopic Astigmatism
มีค่าสายตาเอียงเล็กน้อยทั้งสองข้าง

2. Convergence insufficiency ความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา ในการบังคับลูกตาให้เหลือบเข้าใน

3. Presbyopia ค่าสายตาชราตามวัย ดูใกล้ไม่ชัด

แนวทางแก้ไข
1. แว่นสายตาโปรเกรสซีฟ ค่ากำลังสายตาไกล กลาง ใกล้ เต็มกำลังทั้งหมด และจ่ายปริซึม 1 Prism Base In
R. Plano -0.25 x 150 with 0.5 Prism Base In
L. Plano -0.50 x 45 with 0.5 Prism Base In
with Add +1.75 ค่าสายตาชราดูใกล้อยู่ส่วนล่างของเลนส์

2. Len Design : Progressiv PureLifeFree2 PM Medium Corridor 13 mm. index 1.50 Coating Solitare Protect Plus 2

3. แนะนำคนไข้ให้ปรับตัว 5 วัน

ค่าสายตา รุ่นเลนส์ เนื้อวัสดุ และโครงสร้างเลนส์ รวมไปถึงค่าปริมาณปริซึม ที่สามารถ Order ได้ด้วยตนเอง ผ่านโปรแกรม Winfit

 
การพิจารณาเคส
1. ค่าสายตามองไกลเปลี่ยนจากแว่นเดิมไม่มาก มีองศาเปลี่ยนเล็กน้อยข้างขวา แต่ข้างซ้ายเปลี่ยนถึง 20 องศา ช่วยให้ระดับการมองเห็นดีขึ้นจากแว่นเดิม เป็น 20/20 ตาทั้งสองข้าง ส่วนสายตาชราที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น +1.75 และค่ากำลังยืดหยุ่นของเลนส์ตา NRA/PRA ดูสมเหตุสมผลช่วยให้ระดับการมองใกล้เป็น 20/20

2. Convergence Insufficiency หมายถึง ความผิดปกติของกล้ามเนื้อตา ซึ่งต้องบังคับให้ลูกตาเหลือบเข้าใน โดยใช้กล้ามเนื้อตาที่สำคัญคือ Medial Rectus ที่อยู่ติดจมูก ซึ่งมีหน้าที่เหลือบเข้าเรียกว่า Convergence
กล้ามเนื้อตา มี 6 มัด ซึ่งถูกควบคุมโดยระบบประสาทสมอง เพื่อสั่งการให้มองภาพชัด เห็นภาพเดียว เรียกว่า การทำงานร่วมกันสองตา แต่ถ้ากล้ามเนื้อตา มีแรงเหลือบเข้าไม่พอ จะดูใกล้ลำบาก อาจเห็นภาพซ้อน

ตาเหล่ออกซ่อนเร้น หรือที่เรียกว่า exophoria ถ้าสังเกตุจากภายนอกจะไม่เห็นว่าตาเหล่ แต่ถ้าเหล่ออกแบบสังเกตุเห็นได้จากภายนอกเรียกว่า exotropia
ในคนที่มีตำแหน่งพักของตาอยู่ในตำแหน่งเหล่ออกมากไป ทำให้กล้ามเนื้อตา ต้องออกแรงบังคับลูกตา ให้เหลือบเข้ามามองวัตถุที่อยู่ใกล้ ถ้ามี Positive fusional Vergence ที่ต่ำ หรือ Prism Base Out reserve ต่ำ จะไม่มีแรงมากพอบังคับ กล้ามเนื้อตาให้รวมภาพ ได้ต่อเนื่องนานๆ อาการมากน้อยอย่างไร ขึ้นอยู่กับ Bo reserve ว่ามีแรงดึงตาเหลือบมากน้อยเท่าไหร่

Phoria จึงเปรียบเหมือนปริมาณทั้งหมดที่ต้องพยายามให้กล้ามเนื้อตารวมภาพเป็นหนึ่ง fusional vergence จึงเปรียบดั่ง Supply ของกล้ามเนื้อตาที่มีอยู่เพื่อใช้บังคับกล้ามเนื้อตา ให้เหลือบเข้ามามองใกล้

เมื่อพิจารณาเคสคุณ H.A มี exophoria ที่ระยะ 6 m. 2.5 Prism Base In (ค่าปกติ 0-2 BI) แต่มีแรงสำรองเพียง 4 prism Base out และมี Associate Phoria คือปริมาณ Phoria ที่ร่างกายชดเชยได้ แล้วขาดอีก 1 Prism Base In ที่ดูไกล
ส่วนระยะใกล้ ที่ 40 cm. มี exophoria อยู่ 7 Prism Base In (Norm 0-6 BI) BO – reserve 10
ตาเหล่ซ่อนเร้นในแนวดิ่งไม่มี

ดังนั้นเคสนี้วินิจฉัยว่า เป็น Convergence insufficiency ใน
Presbyopia เนื่องจากมีตาเหล่ออกซ่อนเร้นที่ใกล้สูงกว่าปกติ โดยที่มีแรงเหลือบตาเข้าในกำลังน้อยกว่าปกติ ร่วมกับ Accomodative convegece/Accom = 1:1 ซึ่งจัดว่าต่ำ
 
เคสนี้จึงพิจารณาจ่าย 1 Prism Base In จาก Associate Phoria ที่ดูไกล Compensate ได้ แล้วยังขาดอยู่ 1 Prsm Base In และยังช่วยลด Demand ดูใกล้จาก 7 BI เหลือ 6 BI ส่วน reserve ขาดไปเล็กน้อย แต่เชื่อว่านอกจาก Correct ค่าสายตาแล้ว จะทำให้มองไกล กลาง ใกล้ ชัด และสบายตาขึ้นแน่นอน
 
 
3. เลนส์โปรเกรสซีฟที่เลือกเข้ามาแก้ไขค่าสายตาเอียงเล็กน้อย จ่าย split prism ข้างละ 0.5 Prism Base In รวมเป็น 1 Prism Base In พิจารณาแล้วว่า Progressiv PureLife Free2 ค่าย Rodenstock M corridor ดูจะเหมาะสมกับเคสนี้ที่สุด
 
สรุป

สายตาคุณ H.A ไม่ซับซ้อนมากทั้งมองไกล และใกล้ เพียงแต่ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงจากการให้ประวัติของคนไข้ว่า เหตุใดสายตาที่เปลี่ยนแปลงไม่มากนั้น ทำให้มองไม่ชัด และเห็นภาพซ้อนระยะใกล้หน่อยๆแม้จะ พยายามพักผ่อนให้เต็มที่แล้วก็ตาม นั้นคือเรื่องของ Binocular function ที่ไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนสุขภาพตาปกติดี

วันส่งมอบแว่น คุณ H.A สวมในทันที แจ้งว่าทำไมดูชัด กว้างขึ้นทั้งไกล กลาง ใกล้ สบายตากว่าเดิมมากเลย

ส่วนผมนั้นก็ยิ้มรับ และตอบว่า ดีแล้วครับ

สำหรับเคสนี้ คงไว้เพียงเท่านี้ ขอบคุณ เครดิต เรื่อง Convergence insufficiency หรือ CI จากเพจ #LoftOptometry โดย Dr.Loft นะครับ

สำหรับวันนี้คงไว้เท่านี้ ขอบคุณ และสวัสดีครับ
Chatchawee,O.D,BS.(RT)